คุณจะออกเดินทางจาก โรมา เตอร์มินี ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง โรม และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เวเนเซีย เมสเตร์ เขตโรงพยาบาล ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เมสเตร.
คุณจะออกเดินทางจาก โรมา เตอร์มินี ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง โรม และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เวเนเซีย เมสเตร์ เขตโรงพยาบาล ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ เมสเตร.
Embarking on a train journey from Rome to Mestre offers an incredible opportunity to explore the breathtaking beauty of Italy. Whether you're seeking a quick getaway or a leisurely adventure, this route guarantees a memorable experience. So, hop aboard and let the travel delights unfold!
The quickest way to travel between these two cities is to take a high-speed train from Rome's Roma Termini station to Mestre's Venezia Mestre station. With a total distance of approximately 500 kilometers, the journey takes approximately 3 hours, making it a convenient choice for travelers with limited time.
During your train journey, you'll pass through several significant cities that offer glimpses into Italy's culture, history, and natural beauty. The first stop after departing from Rome is Florence, renowned for its Renaissance art and architecture, including the iconic Florence Cathedral and Uffizi Gallery.
Continuing north, the train will pass through Bologna, an epicurean paradise famous for its hearty cuisine, medieval towers, and vibrant university culture. Don't miss the chance to try the traditional Bolognese sauce!
The final leg of the journey takes you to the enchanting city of Venice, known for its intricate network of canals, gondola rides, and captivating beauty. After arriving at Venezia Mestre station, you can easily access the historic center of Venice via a short train or bus ride.
Upon departure from Rome, keep an eye out for the Colosseum, a magnificent ancient amphitheater that stands proudly as a symbol of the Roman Empire's grandeur. As you approach Mestre, the arrival offers a tantalizing glimpse of the famous Venetian gondolas gently gliding through the scenic canals.
Once you arrive in Mestre, take some time to explore the city's charming streets, visit the local markets, and savor delicious Italian cuisine at one of the many traditional trattorias. From Mestre, you can easily access the magical city of Venice and all its wonders.
So, whether you're a history buff, an art enthusiast, or a food lover, the journey from Rome to Mestre presents an array of enchanting experiences. So, sit back, relax, and let the train transport you to a world of Italian wonders!
รถไฟจาก โรม ไปยัง เมสเตร ใช้เวลาเท่าไหร่?
การเดินทางด้วยรถไฟจาก โรม ถึง เมสเตร อาจใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 45 นาที ถึง 4 ชั่วโมง 30 นาที.
การเดินทางที่เร็วที่สุดจาก โรม ไปยัง เมสเตร โดยรถไฟคืออะไร?
การเดินทางที่เร็วที่สุดคือการใช้บริการรถไฟ Frecciarossa ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 45 นาที.
รถไฟจาก โรม ไปยัง เมสเตร ราคาเท่าไหร่?
ราคาตั๋วเริ่มต้นประมาณ €50 แต่อาจแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาและระดับความสะดวกสบายของที่นั่ง.
มีรถไฟวิ่งตรงจาก โรม ไปยัง เมสเตร หรือไม่?
ใช่, มีรถไฟตรงจาก โรม ถึง เมสเตร โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน.
ระยะทางจาก โรม ไปยัง เมสเตร โดยรถไฟเท่าไหร่?
ระยะทางโดยรถไฟระหว่าง โรม และ เมสเตร คือประมาณ 530 กิโลเมตร.
รถไฟจะหยุดที่เมืองใดบ้างในเส้นทางจาก โรม ไปยัง เมสเตร?
รถไฟอาจหยุดที่เมืองหลักๆ เช่น บอโลญญาและเวโรนา ก่อนที่จะถึง เมสเตร.
โรม—เมืองที่เต็มไปด้วยความงามทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นที่สุดแห่งการผสานวัฒนธรรมโบราณเข้ากับโลกสมัยใหม่ในทุกมุมมอง.
โคลอสเซียม - อัฒจันทร์ยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของ โรม และเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ โรมัน. ตั้งอยู่ใจกลางเมือง, เปิดเวลา 08:30-19:00, ค่าเข้าชม €16. เคล็ดลับ: ซื้อตั๋วแบบข้ามวันเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด.
พานธีออน - วิหารโบราณที่มีหลังคาโดมขนาดมหึมาที่ยังคงสมบูรณ์ดีที่สุดในโลก. ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก จัตุรัส Piazza della Rotonda, เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย. เคล็ดลับ: เยี่ยมชมในเวลากลางคืนเพื่อชมการส่องสว่างที่งดงาม.
น้ำพุเทรวี - น้ำพุที่ใหญ่ที่สุดใน โรม และเป็นหนึ่งในน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก. ตั้งอยู่ในย่าน Trevi, เป็นที่รู้จักจากประเพณีการโยนเหรียญ. เคล็ดลับ: โยนเหรียญสามเหรียญเพื่อหวังโชคลาภ.
วาติกัน - รัฐอิสระในใจกลาง โรม ที่เป็นที่ตั้งของ พระราชวังวาติกัน และ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์. เปิดเวลา 09:00-18:00, ค่าเข้าชม €17. เคล็ดลับ: จองตั๋วล่วงหน้าออนไลน์เพื่อเลี่ยงคิวยาว.
ฟอรั่มโรมัน - ใจกลางของการเมือง, ศาสนา, และชีวิตสังคมของ โรมันโบราณ. ตั้งอยู่ใกล้ โคลอสเซียม, เปิดเวลา 08:30-19:00, ค่าเข้าชม €12. เคล็ดลับ: ใช้เวลาชมทั้งพื้นที่เพื่อซึมซับบรรยากาศอันน่าหลงใหล.
สเปนิชสเต็ปส์ - บันไดใหญ่ที่นำไปสู่ จัตุรัส Piazza di Spagna, สถานที่ยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนและชมผู้คน. เคล็ดลับ: เพลิดเพลินกับเจลาโต้ขณะนั่งพักผ่อนที่บันได.
พิพิธภัณฑ์วาติกัน - บ้านของงานศิลปะที่สำคัญมากมายรวมถึง ห้องชุดซิสทีน ที่มีภาพวาดของมิคาเอลแองเจโล. เปิดเวลา 09:00-18:00, ค่าเข้าชม €21. เคล็ดลับ: ใช้เวลาอย่างน้อยหลายชั่วโมงเพื่อชื่นชมผลงานทางศิลปะที่น่าประทับใจ.
การเดินทางไปรอบ โรม นั้นเปรียบเสมือนการย้อนเวลากลับไปยังยุคสมัยที่ จักรวรรดิโรมัน ยังคงงดงาม พร้อมด้วยอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ที่ทุกคำชวนให้หลงใหล.
เมสเตร เป็นหนึ่งในเมืองที่มักถูกมองข้ามในอิตาลี แต่เต็มไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมถึงวัฒนธรรมการกินที่โดดเด่น มาเริ่มต้นการสำรวจเมืองที่ไม่เหมือนใครนี้ได้ทันที!
ปราสาทเมสเตร (Castello di Mestre)
ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ปราสาทแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมสเตรและมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เคยเป็นฐานทัพขนาดใหญ่ในยุคกลาง ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดงานวัฒนธรรมและเทศกาลต่างๆ ค่าเข้าชมฟรี และมักมีนิทรรศการศิลปะเป็นระยะ.
โบสถ์ซาน ลอเรนโซ่ (Chiesa di San Lorenzo)
โบสถ์เก่าแก่นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 และเป็นที่รู้จักด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังและองค์ประกอบสถาปัตยกรรมบารอกที่งดงาม เปิดทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม และเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบศิลปะและประวัติศาสตร์.
ตลาดเมสเตร (Mercato di Mestre)
ตลาดกลางแจ้งนี้เป็นที่นิยมของทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยว สำรวจตลาดนี้เพื่อลิ้มรสอาหารท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรรม เปิดทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ ที่นี่คุณสามารถชิมเชสโต้เน่ (cicchetti) หรือรีซอตโต้ที่ทำจากข้าวท้องถิ่นได้.
เทอร์เร เฟอร์มา (Torre dell’Orologio)
หอนาฬิกาที่สวยงามนี้ตั้งอยู่ในตรอกแคบๆ ของเมสเตร มีการออกแบบที่ซับซ้อนและเป็นที่รู้จักจากการถ่ายทอดเวลาในอดีตอันเก่าแก่ ไม่มีค่าเข้าชม และเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม.
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น (Museo M9)
พิพิธภัณฑ์ M9 เป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่เล่าเรื่องราวของศตวรรษที่ 20 ของอิตาลีผ่านการจัดแสดงแบบโต้ตอบ ค่าเข้าชมอยู่ที่ประมาณ €9 พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์.
พาร์โก้ ซาน กิโอวานนี่ (Parco San Giuliano)
เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของเวนิสและลากูน สถานที่นี้เหมาะสำหรับการเดินเล่นหรือปิกนิก ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม.
วิลล่า โตร์โลนิ (Villa Toreloni)
สถาปัตยกรรมในสไตล์เรเนสซองส์ ตั้งอยู่นอกเมืองเมสเตร วิลล่านี้มีสวนที่สวยงามและเป็นที่นิยมสำหรับการจัดงานแต่งงานและกิจกรรม ค่าเข้าชมอยู่ที่ประมาณ €5 และมีการจัดแสดงงานศิลปะเป็นระยะ.
การเดินทางรอบ เมสเตร นั้นง่ายและสะดวก ด้วยการเชื่อมต่อที่ดีกับเวนิสและเมืองใหญ่ๆ อื่นๆ ในอิตาลีผ่านทางรถไฟและบัส ชวนให้คุณสัมผัสถึงความงดงามของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์แห่งนี้.
โรม เป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการเดินทางโดยรถไฟที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูง สถานีหลักที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญคือ สถานีรถไฟเทอร์มินี (Roma Termini) นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟอื่นๆ ที่สำคัญเช่น สถานีรถไฟทิบูร์ตินา (Roma Tiburtina) และ สถานีรถไฟโอสเตียนเซ (Roma Ostiense) ซึ่งทั้งสามสถานีนี้เชื่อมโยงกับเส้นทางต่างๆ ทั่ว ยุโรป อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ สถานีรถไฟเทอร์มินี ตั้งอยู่ที่ Piazza dei Cinquecento, แขวงเอสควิลิโน่, โรม, นักท่องเที่ยวสามารถพบกับบริการต่างๆ ที่ครอบคลุม เช่น บริการเก็บกระเป๋า และข้อมูลการท่องเที่ยว เวลาทำการของสถานีคือ ตั้งแต่ 04:30 น. ถึง 01:30 น. ของวันถัดไป การเดินทางจากสถานีนี้สู่สถานที่ต่างๆ ในเมืองหรือการเดินทางไปยังเมืองอื่นในยุโรปจึงสะดวกสบายและรวดเร็ว
สถานีรถไฟ เมสเตร ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศ อิตาลี นับเป็นหัวใจสำคัญของการเดินทางทางรถไฟในภาคตะวันออกของเวนิส นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟที่สำคัญอื่นๆ ในเมือง เช่น สถานีรถไฟเมสเตร โอสเปดาเล และ สถานีปอร์โต มาร์กเกอรา ที่ให้บริการรถไฟภูมิภาคและระหว่างเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการสำรวจเมืองนี้และพื้นที่โดยรอบ
สถานีรถไฟเมสเตร ตั้งอยู่ที่ อิตาลี ปีกตะวันออกของเวนิสและเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 01:30 น. ในสถานีนี้มีบริการ เก็บกระเป๋า ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องห่วงเรื่องสัมภาระ นอกจากนี้ยังมี ร้านค้า และ ร้านอาหาร ให้บริการในสถานี ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเติมพลังก่อนออกเดินทางต่อได้
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ